นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท เงินดีดี จำกัด (“บริษัท”) มีความใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ จึงได้จัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อให้ผู้ใช้บริการ (“ท่าน”)  ได้รับทราบถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัทเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ขอบเขต

นโยบายนี้มีผลบังคับใช้กับท่าน โดยในที่นี้ได้แก่ (1) ลูกค้าซึ่งใช้หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ (2) ผู้ติดต่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ (3) ผู้ที่รับทราบข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ (4) ผู้ที่ได้รับการเสนอหรือชักชวนจากบริษัทให้ใช้หรือรับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ (5) ข้อมูลบุคคลธรรมดาที่บริษัทได้รับเนื่องจากเป็นผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัท เช่น กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน และผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจเดิมและปัจจุบัน เป็นต้น และ บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท ซึ่งบุคคลดังกล่าวรวมถึงบุคคลธรรมดาที่ยังมิได้มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ผู้ติดต่อ ลูกจ้าง พนักงาน เจ้าหน้าที่ บุคลากร บุคคลที่บริษัทแนะนำหรืออ้างอิง ผู้ลงทุน ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนอง ผู้ให้หลักประกัน คู่ค้า บุคคลที่ได้ชำระเงินให้แก่หรือรับเงินจากลูกค้าของบริษัท บุคคลที่เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท ผู้สมัครงาน ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ รวมถึงกรรมการ ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือลูกค้าของบริษัท (6) บุคคลทั่วไปที่บริษัทมีความสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ ติดต่อกันโดยประการอื่น หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าผ่านช่องทางใด

ทั้งนี้ ในบางกรณีบริษัทอาจมีการวางลิงก์หรือนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกแล้ว การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ซึ่งในกรณีดังกล่าวนั้นบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการออกจากแพลตฟอร์มของบริษัท

ช่องทางในการเก็บข้อมูลรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม เข้าร่วมกิจกรรม ค้นหา ผ่านช่องทางให้บริการ และ/หรือ ช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ของบริษัท เช่น สาขา สำนักงานใหญ่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ตู้รับฝากเร่งด่วนหรือตู้บริการทางการเงินอื่น ๆ ตัวแทนทางการเงิน จุดบริการยืนยันตัวตน ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ ข้อความสั้น (SMS) แบบสอบถาม นามบัตร การประชุม อบรม สัมมนา งานอีเว้นท์ สันทนาการ กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด การพบปะ หรือช่องทางอื่นใด
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในเครือ ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการอื่น ๆ ของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการกับบริษัท บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ผู้ให้บริการข้อมูล ลูกค้าของบริษัท บุคคลหรือนิติบุคคลที่มาทำธุรกรรมกับบริษัท (ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าวตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น) นายทะเบียน สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น ราชกิจจานุเบกษา ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เฉพาะกรณี บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น

 

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผย

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน ประเภทผลิตภัณฑ์ หรือ บริการที่ท่านต้องการจากบริษัทประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเป็นเจ้าของ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ประเภทข้อมูล ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย
ข้อมูลส่วนบุคคล – คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล นามแฝง (หากมี) – เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ – สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัวและจำนวนบุตร – ข้อมูลความสัมพันธ์ (เช่น ระหว่างผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม ผู้ถือบัตรหลักและบัตรเสริม ท่านและผู้รับสิทธิประโยชน์) – สัญชาติ ประเทศที่พำนัก – ลายมือชื่อ – ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสูติบัตร สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาใบสำคัญหย่า สำเนาใบมรณบัตร สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น
ข้อมูลเพื่อการติดต่อ – ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน – หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล – ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ (เช่น ไอดีไลน์ (LINE ID)) – หลักฐานการมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (สำหรับกรณีชาวต่างชาติ)
ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน – ข้อมูลบนสำเนาบัตรนักศึกษา ระดับการศึกษาสูงสุด – อาชีพและสาขาอาชีพ – ตำแหน่ง อายุงานปัจจุบัน – รายละเอียดงาน ประเภทธุรกิจ
ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการ – สัดส่วนการถือหุ้น – ข้อมูลบนเอกสารอื่นใดเพื่อยืนยันการประกอบธุรกิจ (เช่น สัญญาเช่าสถานประกอบกิจการ ข้อมูลการประกอบอาชีพ)
ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม – เลขที่บัญชีธนาคาร – ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และรายจ่าย – ข้อมูลบนหนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน / โบนัส หรือหลักฐานแสดงรายได้อื่น ๆ เอกสารการเดินบัญชีของธนาคาร – เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรและข้อมูลการเสียภาษีของบุคคล – ข้อมูลคะแนนเครดิต (Credit Score) วงเงินบัตร คะแนนสะสม วงเงินสินเชื่ออนุมัติ ข้อมูลการกู้ยืมเงิน ยอดหนี้ ข้อมูลหลักประกันและเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของหลักประกัน รายละเอียดและประวัติการชำระเงิน – บัญชีชื่อผู้ใช้งานแอปพลิเคชันและรหัสผ่าน
ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ – ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน – หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address หรือ Mac address) – คุกกี้ (Cookies ID) – เว็บบีคอน (Web beacon) พิกเซลแท็ก (Pixel Tag) หรือ Software Development Kit (SDK) – รหัสประจำอุปกรณ์ (Device ID) – รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign – on (SSO) – ล็อก (Log) – ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log – in) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู – ค่าเขตเวลา (Time zone) และสถานที่ตั้ง (Location Data) – ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม – ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ
ข้อมูลอื่นๆ – บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับบริษัท รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น บันทึกเสียง ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว คลิปบันทึกเสียง บันทึกการสื่อสารผ่าน Log / Chat – Bot ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ข้อมูลบนคำสั่งศาล / ราชกิจจานุเบกษาที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของลูกค้าของ บริษัทหรือเกี่ยวกับการปฏิบัติ ตามกฎหมาย (เช่น คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ คำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก คำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนสมือนไร้ความสามารถ คำสั่งเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ) และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูล ส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล – ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ โดยบริษัทไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน หากแต่ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่านเพื่อประกอบการให้บริการ และ/หรือ ผลิตภัณฑ์แก่ท่าน เช่น ศาสนาตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเชื้อชาติตามสำเนาหนังสือเดินทางของบางประเทศ ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่นำลักษณะเด่นทางพฤติกรรมของการลงลายมือชื่อดังกล่าวมาใช้สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ พฤติกรรมทางเพศ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราว ๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากท่าน (ต่อไปในนโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)

3. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือการใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) และ/หรือ ดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ หากบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ  เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือผู้เยาว์ที่อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) และไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

4. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท เช่น บุคคลอ้างอิง ผู้ค้าประกัน ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีอำนาจ ผู้ได้รับมอบ อำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสตี ตัวแทน บุคคลที่อยู่ในสายการควบคุม หรือการเป็นเจ้าของ เจ้าของร่วม และบุคคลท่านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท และบุคคลอื่นใดที่ท่านมี ความสัมพันธ์ด้วยอันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัท โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว แก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉิน/ทวงถามหนี้ และรายได้ของสมาชิกในครอบครัว โปรดแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ แก่บุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบายฯ และขอความยินยอมหากจำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายอื่นในการ เปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกมายังบริษัทด้วย

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย

 

บริษัทจะใช้ฐานทางกฎหมายอย่างน้อยหนึ่งฐานต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • เมื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่บริษัททำไว้กับท่าน (ฐานการปฏิบัติตามสัญญา) กล่าวคือ เมื่อบริษัทต้องการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะให้บริการแก่ท่านตามสัญญา หรือก่อนที่บริษัทจะเข้าทำสัญญากับท่าน
  • เมื่อเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย (ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย) กล่าวคือ เมื่อบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
  • เมื่อเป็นผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (ฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย) กล่าวคือ เมื่อบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายตามที่กฎหมายอนุญาต เว้นแต่ผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านและ/หรือ
  • เมื่อท่านให้ความยินยอม (ฐานความยินยอม) กล่าวคือ เมื่อท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง

วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผลิตภัณฑ์/บริการ

–     เพื่อสอบทาน ยืนยันตัวตน และตรวจสอบข้อมูลเครดิตของท่าน

–     เพื่อให้บริการ และ/หรือส่งมอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท

–     เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน หรือธุรกิจของท่าน

–     เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ โซเชียลมีเดีย (social media) ไปรษณีย์ หรือติดต่อสื่อสารกันซึ่งหน้าเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท ข้อมูล ข่าวสารใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด เช่น การแจ้งปิดบริการชั่วคราว เป็นต้น

–     เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการที่เกี่ยวกับประกัน และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

–     เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเครดิต และพฤติกรรมการชำระหนี้ของท่านอันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการให้สินเชื่อ

ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

ฐานการปฏิบัติตามสัญญา

–     เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนที่เป็นข้อมูลศาสนา หรือข้อมูลชีวภาพ (biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนของท่าน และ/หรือทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล เว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใด

ฐานความยินยอม

ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

การดำเนินการตามหน้าที่ตามกฎหมาย

–     เพื่อนำส่งรายงานตามระเบียบข้อบังคับแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

–     เพื่อป้องกัน และตรวจจับการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer – KYC) (เพื่อระบุ และพิสูจน์ตัวตนของท่าน ตรวจสอบรายละเอียดของท่านกับรายการบทลงโทษ และตรวจสอบประวัติของท่าน) และตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Client Due Diligence – CDD) ตามกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

–     เพื่อติดต่อบุคคลอ้างอิงสำหรับยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบุคคลอ้างอิงและ/หรือสถานะทางกฎหมายของบุคคลรายหนึ่งหรือหลายราย และ/หรือสอบถามหรือยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ติดต่อลูกหนี้ เช่น บุคคลในครอบครัว นายจ้าง เป็นต้น เพื่อประโยชน์แห่งการติดตามทวงถามหนี้เท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย

–     เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับ

ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

การทำธุรกรรม

–     เพื่อระบุประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการ

–     เพื่อดำเนินธุรกิจและปรับปรุงกิจกรรมทางธุรกิจ

–     เพื่อจัดทำรายงานทางสถิติ การวิจัยทางการตลาด รายงานวิเคราะห์ที่ไม่เกี่ยวกับการตลาด หรือการส่งเสริมการขาย

–     เพื่อวางแผนการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน

–     เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับ และปรับปรุงผลประกอบการ

ฐานการปฏิบัติตามสัญญา

ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

–     เพื่อจัดทำแบบจำลองเครดิตสำหรับเพิ่มโอกาสในการพิจารณาสินเชื่อ

ฐานความยินยอม

ความปลอดภัย และการบริหารความเสี่ยง

–     เพื่อป้องกันอาชญากรรม และจัดการความปลอดภัย (เช่น การใช้กล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งจะทำการบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงของท่าน เป็นต้น)

–     เพื่อสืบสวน รายงาน และป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน

–     เพื่อบริหารความเสี่ยง

–     เพื่อตรวจสอบภายใน

–     เพื่อขอคำแนะนำ และ/หรือให้คำแนะนำด้านกฎหมายภายในบริษัท

ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

ฐานการปฏิบัติตามสัญญา

การตลาดและส่งเสริมการขาย

–     เพื่อพัฒนา และดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตลาด

–     เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ โซเชียลมีเดีย (social media) หรือติดต่อสื่อสารซึ่งหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท และ/หรือกลุ่มธุรกิจของบริษัท และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งท่านอาจสนใจ

–     เพื่อส่งข้อความทางการตลาดเฉพาะบุคคลแก่ท่าน

–     เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทส่งข้อมูลแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่ท่านอาจสนใจ

–     เพื่อศึกษาวิเคราะห์การใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของท่าน และต่อยอดการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์/บริการ

–     เพื่อทดสอบ วิจัย วิเคราะห์ สำรวจความพึงพอใจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่/รูปแบบใหม่ของผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงการใช้งานแอปพลิเคชัน (User Interface)

ฐานความยินยอม

ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

การบริหารจัดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ/ การลงทุน/ การกู้ยืม/การค้ำประกัน /ผู้ถือหุ้น หรือผู้รับมอบฉันทะของบุคคลดังกล่าว

–     เพื่อการดำเนินการต่าง ๆ  อาทิ การบริหารจัดการการประชุมผู้ถือหุ้น การพิสูจน์ตัวตนและลายมือชื่อในการติดต่อทำธุรกรรมหรือใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะผู้ถือหุ้น การจัดส่งเอกสารต่าง ๆ เป็นต้น โดยสอดคล้องตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาทิ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย

–     เพื่อการดำเนินการต่าง ๆ  ภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย อาทิ การจัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น การบันทึก/ถ่ายทอดภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง ในการประชุม การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

–     เพื่อค้ำประกันตามสัญญาหลักประกันทางธุรกิจระหว่างบริษัทกับบริษัทในเครือ เฉพาะกรณีเป็นไปเพื่อปัดป้องความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติชำระหนี้และการโอนสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายให้แก่บริษัทในเครือ

ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย

ในกรณีที่บริษัทอาศัยฐานผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะพิจารณาว่า ประโยชน์ดังกล่าวของบริษัทนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือไม่ และจะต้องสามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน

กรณีที่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมาย หรือภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาระหว่างบริษัทและท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่บริษัทมีต่อท่าน หรือตามที่บริษัทวางแผนว่าจะเข้าทำสัญญากับท่านได้ (เช่น เพื่อให้บริการสินเชื่อ) ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจปฏิเสธการให้บริการที่เกี่ยวข้อง แต่บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีเช่นว่านั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ ซึ่งการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ ท่านสามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกดังกล่าวด้วยเช่นกัน

  1. บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท/บริษัทในเครือ
    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท/บริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดหรือตามความยินยอมของท่านภายใต้นโยบายฉบับนี้ โดยการนี้ บริษัทอื่นในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท/บริษัทในเครือสามารถยึดถือตามความยินยอมที่บริษัทได้มา
  1. ผู้ให้บริการของบริษัท
    บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัทหรือเพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจและการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่ท่าน บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอกอื่นใด เพื่อสนับสนุนการให้บริการของบริษัท ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัท ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้จัดหา สนับสนุนหรือให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น จัดทำและให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Platform as a Service) แอปพลิเคชัน หรือระบบงานอื่นใดให้แก่บริษัท การให้บริการพิสูจน์ยืนยันตัวตนให้แก่บริษัท (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย (5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ (6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ (7) ผู้ตรวจสอบบัญชี (8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร (10) บริษัทที่ให้บริการด้านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตลาด งานกิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (12) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอก (13) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์  (15) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี และ/หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท (16) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือ ทำลายเอกสาร (17) ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการข้างต้นไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด
  1. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้พันธมิตรทางธุรกิจ/บริษัทในเครือของบริษัททั้งที่ร่วมมือกันในการจัดหาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ พันธมิตรทางธุรกิจในการสะสมคะแนน พันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co – brand ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น พันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech) หรือพันธมิตรทางธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ

ทั้งนี้ กรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น เพื่อการส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ หรือการเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการจากพันธมิตรทางธุรกิจให้แก่ท่าน บริษัทจะแจ้งรายชื่อพันธมิตรทางธุรกิจให้ท่านทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจให้ความยินยอม โดยการนี้ พันธมิตรทางธุรกิจสามารถยึดถือตามความยินยอมที่บริษัทได้รับจากท่านโดยชอบ โปรดดูรายชื่อพันธมิตรทางธุรกิจ

  1. บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด (ถ้ามี)
    บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล นิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ส่วนราชการแต่มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย) หรือบุคคลอื่นหากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด เช่น ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านภาษี ที่ปรึกษาอื่น ๆ ตามแต่กรณี
  1. สมาคมและชมรม
    ในบางกรณีบริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สถาบัน สมาคม หรือชมรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ชมรมป้องกันและปราบปรามการทุจริต (Fraud Association) รวมถึงสมาคมบริษัทไทย เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก เพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด
  1. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่
    ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การควบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน บริษัทย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  1. บุคคลภายนอกอื่น ๆ
    บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น บริษัทตัวแทน บริษัทคู่ค้า และบริษัทอื่น ๆ ลูกค้าท่านอื่น ผู้ทำธุรกรรมกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับท่าน บุคคลอื่นที่มีการอ้างอิงตามกฎหมาย สมาชิกของระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และ ผู้ให้บริการระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เป็นต้น แล้วแต่กรณี

การใช้คุกกี้ของบริษัท

บริษัทจัดเก็บข้อมูลของท่านเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของท่าน เพื่อการรักษาความปลอดภัยของท่านเมื่อใช้งานงานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถจดจำอุปกรณ์ของท่าน เมื่อท่านกลับเข้ามาในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทอีกครั้ง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ วัตถุประสงค์ของบริษัทในการใช้และวิธีในการจัดการ โปรดดูนโยบายคุกกี้ของบริษัทได้ที่ www.goodmoneybygsb.com/cookies-policy

 

นอกจากนี้ บริษัทอาจมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนของท่านแก่ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Google ทั้งในและต่างประเทศ โดย Google จะมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น คุกกี้  และ/หรือ Software Development Kit (SDK) ในการติดตามและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของบริษัท ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการวิเคราะห์ข้อมูลของ Google ได้ที่ https://policies.google.com/privacy/google-partners?hl=en-US

ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้นหากกฎหมายกำหนด เช่น

  • จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 5 – 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี
  • จัดเก็บไว้ตามกฎหมายหรือหลักเกณฑ์การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือคณะกรรมการข้อมูลเครดิตแห่งชาติ กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้จัดทำ และ/หรือ เลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้ต่อบุคคลที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท สิทธิดังกล่าวรวมถึงสิทธิต่อไปนี้

  1. สิทธิในการได้รับแจ้งว่าข้อมูลส่วนบุคคลกำลังถูกหรือได้รับการประมวลผล ได้แก่ การที่ท่านได้รับทราบว่าจะมีการจัดเก็บข้อมูลประเภทใดบ้าง วัตถุประสงค์ของการจัดเก็บ ระยะเวลาการจัดเก็บ การส่งต่อข้อมูลและช่องทางการติดต่อกับบริษัท ซึ่งหากบริษัทจะมีการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลภายหลังที่แตกต่างไปจากเดิมจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้ง
  2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิเข้าถึงหรือขอสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอน เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน บริษัทอาจขอให้ท่านยืนยันตัวตนก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านขอ
  3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอน หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
  4. สิทธิในการขอรับและให้การโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และมีโครงสร้างชัดเจน และมีสิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยที่ข้อมูลนี้เป็น (1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัท (2) บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลนี้โดยอาศัยความยินยอมของท่านหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับท่าน
  5. สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางรายการได้ เช่น คัดค้านไม่ให้ใช้เพื่อทางการตลาดทางตรง
  6. สิทธิในการจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในบางกรณีสิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ไม่ต้องการให้ข้อมูลแล้ว หรือระงับการลบหรือทำลายข้อมูลเมื่อครบกำหนดที่ต้องลบหรือทำลาย รวมถึงยังมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลในกรณีที่มีความจำเป็นอื่นใด เป็นต้น
  7. สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ท่านได้ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่จำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าวหากบริษัทต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  9. สิทธิในการร้องเรียน ท่านอาจมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

คำร้องขอใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาจมีบางกรณีที่บริษัทปฏิเสธคำขอของท่านได้โดยสมควรและโดยชอบ เช่น เมื่อบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล ท่านสามารถแสดงเจตนาขอใช้สิทธิในการถอนความยินยอมตามช่องทางอื่นตามที่บริษัทอาจกำหนดในอนาคต เมื่อบริษัทได้รับการแสดงเจตนาจากท่านแล้ว บริษัทจะพิจารณาการแสดงเจตนาของท่านตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีระยะเวลาตามที่บริษัทกำหนด โดยจะเริ่มนับระยะเวลาดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่บริษัทได้รับการแสดงเจตนาและเอกสารประกอบของท่านครบถ้วนและเพียงพอต่อการพิจารณาการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท เป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ท่านอาจแจ้งให้บริษัททราบถึงข้อกังวลของท่าน เพื่อให้บริษัทพิจารณาแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อน

ทั้งนี้ ท่านสามารถดำเนินการขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

การแสดงเจตนาใช้สิทธิ

ช่องทางการขอใช้สิทธิ

ระยะเวลาในการดำเนินการ

(นับแต่วันที่ท่านได้ยื่นคำขอและ

เอกสารประกอบครบถ้วน)

สิทธิขอถอนความยินยอม

แอปพลิเคชัน

ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงความยินยอม

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หรือภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงความยินยอม

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สิทธิขอคัดค้าน

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

กรอกเอกสาร นำส่งผ่านอีเมล

ภายใน 30 วัน

สำหรับในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยแก่ผู้รับข้อมูลรายอื่น ๆ ไว้ก่อนจะใช้สิทธิขอถอนความยินยอมในแต่ละครั้ง บริษัทจะดำเนินการแจ้งไปยังผู้รับข้อมูลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ลูกค้าใช้สิทธิขอถอนความยินยอมดังกล่าว (หมายเหตุ : กำหนดให้ 30 วันนับแต่วันที่ท่านทำคำสั่งหรือแจ้งมายังบริษัทครั้งล่าสุด)

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อบริษัทเผยแพร่บนเว็บไซต์ และ/หรือ แอปพลิเคชันของบริษัท อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าว มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลใช้บังคับ

ประเภทใบอนุญาต/ใบขึ้นทะเบียน (License/Registration certificate)

การติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล และข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ตามรายละเอียดข้างล่าง

 

บริษัท เงินดีดี จำกัด

เลขที่ 63/2 อาคาร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชั้น 2 ถนนพระราม 9  แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

อีเมล DPO@moneydd.co.th

ท่านสามารถดาวน์โหลด แบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้สิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน